ปลดปล่อยภาระในพระคริสต์ผ่านการนมัสการ
ในแต่ละวันที่เราตื่นขึ้น บ่อยครั้งเราต้องเผชิญหน้ากับภาระและความกังวลมากมายที่ถาโถมเข้ามาในความคิดจิตใจ ในฐานะผู้เชื่อ เราได้รับการทรงเรียกให้นำทุกสิ่งเข้าสู่การอธิษฐานและมอบไว้กับพระเจ้าผู้ทรงอำนาจสูงสุด แต่บ่อยครั้งเราพบว่าตัวเองอ่อนกำลังเกินกว่าจะร้อยเรียงถ้อยคำได้
ทว่าในพระคุณของพระเจ้า พระองค์ทรงนำเราเข้าสู่การนมัสการ เมื่อเสียงเพลงเริ่มขึ้น เนื้อหาของบทเพลงนมัสการที่เปี่ยมด้วยความจริงแห่งพระกิตติคุณจะเริ่มนำความคิดและจิตใจของเราให้กลับมาจดจ่อที่พระลักษณะของพระเจ้าและพระราชกิจอันสำเร็จแล้วของพระเยซูคริสต์ ความรู้สึกหนักอึ้งในใจจึงค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยสันติสุขที่มาจากความจริงนั้น
ในช่วงเวลาแห่งการนมัสการ เราตระหนักได้ว่า พระเจ้าไม่ได้ทรงเรียกร้องถ้อยคำที่สละสลวยหรือความพยายามของเรา แต่ทรงพอพระทัยในจิตใจที่ยอมจำนนและเชื่อวางใจในการจัดเตรียมของพระองค์
เราจึงเรียนรู้ว่า การนมัสการที่แท้จริงไม่ใช่เพียงการ “อยู่เฉยๆ” ต่อพระพักตร์พระเจ้า แต่คือการที่จิตใจของเรา ตอบสนองต่อความจริง ที่ว่าพระเจ้าเป็นผู้ใดและทรงทำอะไรเพื่อเราในพระเยซูคริสต์ การนมัสการคือการที่จิตวิญญาณของเรายอมรับและชื่นชมยินดีในพระคุณของพระองค์ แม้ในเวลาที่เราไม่มีเรี่ยวแรงจะเอ่ยคำใดๆ ก็ตาม
พระวจนะของพระเจ้าตรัสยืนยันความจริงนี้อย่างชัดเจน..
“บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนักจงมาหาเรา และเราจะให้ท่านพักสงบ จงรับแอกของเราแบกไว้และเรียนรู้จากเราเพราะเราสุภาพและถ่อมใจ แล้วจิตวิญญาณของท่านจะพักสงบ เพราะแอกของเรานั้นพอเหมาะและภาระของเราก็เบา” มัทธิว 11:28-30 TNCV
แอกของพระคริสต์คือการทรงเรียกให้เรามาเป็นสาวกของพระองค์ ละทิ้งความพยายามของตนเองและยอมจำนนต่อพระประสงค์ของพระเจ้า ซึ่งไม่ใช่ภาระที่กดขี่ แต่เป็นภาระที่นำมาซึ่งชีวิตครบบริบูรณ์และการพักสงบอย่างแท้จริงในพระคุณ
ดังนั้น การนมัสการจึงไม่ใช่การแสวงหาประสบการณ์ทางอารมณ์ แต่เป็นการแสดงออกถึงความเชื่อวางใจในพระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นการหลั่งน้ำตาแห่งการสำนึกในพระคุณ หรือรอยยิ้มแห่งความชื่นชมยินดีในความรอด สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการอธิษฐานและการนมัสการที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า เพราะมันเกิดจากความเข้าใจในความจริงของพระองค์
หากใจท่านหนักอึ้งในวันนี้ ขอให้ระลึกถึงพระกิตติคุณ จงวางภาระของท่านลงที่ไม้กางเขน แล้วให้ความจริงแห่งพระวจนะนำท่านเข้าสู่การนมัสการ เพื่อจิตวิญญาณของท่านจะได้พบกับการพักสงบในอ้อมแขนของพระผู้ไถ่ ผู้ทรงรู้จักและรักท่านอย่างไม่มีเงื่อนไข
คำถามใคร่ครวญ
ตอนนี้มีภาระอะไรในใจคุณ? และความจริงเรื่องพระราชกิจอันสำเร็จแล้วของพระคริสต์บนไม้กางเขนช่วยให้คุณมองภาระนั้นเปลี่ยนไปอย่างไร?
คุณเคยมีประสบการณ์ที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงใช้ ความจริงตอนใดตอนหนึ่งจากพระคัมภีร์ มาหนุนใจหรือปลอบโยนคุณในยามที่อ่อนกำลังหรือไม่? เหตุการณ์นั้นเป็นอย่างไร?
หากวันนี้คุณจะนมัสการพระเจ้าด้วยบทเพลง คุณจะเลือกเพลงที่ประกาศความจริงเรื่องอะไรของพระเจ้าเป็นพิเศษ (เช่น ความยิ่งใหญ่, พระคุณการไถ่, การทรงครอบครอง)? และความจริงนั้นหนุนใจคุณอย่างไร?
By ดวงดาว
Edited by h