รากของชีวิต

Photo by Daow ka Duen

วันนี้ขณะที่ฉันกำลังขุดหญ้าในสวน ฉันพบว่ารากของมันมีความยาวและซับซ้อนมาก สิ่งนี้ทำให้ฉันคิดใคร่ครวญถึงพระราชกิจของพระเจ้าในชีวิตของผู้เชื่อ การที่ต้นไม้จะเติบโตและแข็งแรงได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของต้นไม้เอง แต่ขึ้นอยู่กับผู้ที่ปลูกมันไว้ในที่ที่มีแหล่งน้ำหล่อเลี้ยง

ในชีวิตของผู้เชื่อก็เช่นกัน ไม่ใช่เราที่เลือกหยั่งรากในพระเจ้าด้วยกำลังของตนเอง แต่เป็นพระเจ้าโดยพระคุณของพระองค์ที่ทรง “ปลูก” เราไว้ในพระเยซูคริสต์ เพราะโดยธรรมชาติแล้วเราตายแล้วในบาปและไม่สามารถเลือกพระองค์ได้ (เอเฟซัส 2:1-5) รากฐานชีวิตของเราไม่ได้เกิดจากความพยายามของเรา แต่เกิดจากการที่พระเจ้าทรงมอบชีวิตใหม่และหยั่งรากเราไว้ในพระบุตรของพระองค์

พระเจ้าไม่เพียงแต่เป็นผู้ทรงปลูก แต่ยังทรงเป็นผู้เลี้ยงดูและค้ำจุนรากนั้นด้วย พระองค์คือรากฐานที่มั่นคงซึ่งทำให้เรายืนหยัดได้ ไม่ใช่เพราะความเข้มแข็งของเรา แต่เพราะความสัตย์ซื่อของพระองค์ผู้ทรงรักษาเราไว้ พระองค์ทรงเป็นแหล่งน้ำแห่งชีวิตที่หล่อเลี้ยงเรา เพื่อให้เราเกิดผลถวายเกียรติแด่พระองค์ ไม่ใช่เพื่อตัวเราเอง

“พวกเขาเป็นเหมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ ซึ่งออกผลตามฤดูกาล และใบก็ไม่เหี่ยวแห้ง ทุกสิ่งที่พวกเขาทำก็เจริญรุ่งเรือง” ‭‭สดุดี‬ ‭1‬:‭3‬ ‭TNCV‬‬

ข้อพระคัมภีร์นี้ชี้ให้เห็นภาพของผู้ชอบธรรมว่าเป็น “ต้นไม้ที่ถูกปลูกไว้” (a tree that is planted) ซึ่งเป็นการกระทำของพระเจ้า ไม่ใช่ต้นไม้ที่เดินไปหาแหล่งน้ำด้วยตัวเอง การเกิดผลและความเจริญรุ่งเรืองจึงเป็นผลโดยตรงมาจากการที่พระเจ้าทรงเป็นผู้สถาปนาและค้ำจุนชีวิตของเขาไว้ เพื่อพระสิริของพระองค์

พระคัมภีร์ในโคโลสี ยังยืนยันว่า:

“ดังนั้นในเมื่อท่านได้รับพระเยซูคริสต์เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้วก็จงดำเนินชีวิตในพระองค์ต่อ ไป ด้วยการหยั่งรากและรับการก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ มั่นคงขึ้นในความเชื่อตามที่ได้รับการสอนมาและเต็มล้นด้วยการขอบพระคุณ”‭‭โคโลสี‬ ‭2‬:‭6‬-‭7‬ ‭TNCV‬‬

ข้อความนี้เริ่มต้นด้วยสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงกระทำแล้ว คือการที่เรา “รับพระเยซูคริสต์” ซึ่งเป็นของประทานจากพระเจ้า จากนั้นเราจึงถูกเรียกให้ “ดำเนินชีวิตในพระองค์” ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อพระคุณที่ได้เริ่มต้นในเราแล้ว เราเติบโตขึ้นและมั่นคงในความเชื่อได้ ก็เพราะพระเจ้าทรงเป็นผู้ก่อร่างสร้างเราขึ้นบนรากฐานคือพระคริสต์

สรุป..

ดังนั้น ชีวิตคริสเตียนจึงไม่ใช่เรื่องของการพยายามหยั่งรากของเราให้มั่นคง แต่คือการวางใจในพระเจ้าผู้ทรงปลูกและหยั่งรากเราไว้ในพระคริสต์แล้วอย่างมั่นคง การเติบโตและผลดีที่เกิดขึ้นในชีวิต ไม่ใช่ความสำเร็จของเรา แต่เป็นผลของพระวิญญาณที่ทำงานผ่านเรา เพราะเราถูกเชื่อมต่อกับแหล่งชีวิตที่แท้จริงคือพระองค์นั่นเอง

คำถามใคร่ครวญ:

  1. คุณกำลังวางใจในความจริงที่ว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้หยั่งรากชีวิตของคุณในพระคริสต์หรือไม่ หรือคุณยังพึ่งพากำลังของตนเอง?
  2. การดำเนินชีวิตในแต่ละวันของคุณสะท้อนถึงการยอมจำนนต่อพระเจ้าผู้ทรงเป็นรากฐานและผู้ค้ำจุนชีวิตหรือไม่?

By ดวงดาว
Edited by h