พระธรรม 1 เปโตร 1:3-5 สำแดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ความรอดของเราตั้งแต่ต้นจนจบนั้นวางอยู่บนรากฐานแห่ง “พระเมตตาอันยิ่งใหญ่” ของพระเจ้า ไม่ใช่ความดีหรือการตัดสินใจของเราเลย พระคุณทั้ง 3 ประการที่เปโตรกล่าวถึง ล้วนเป็นของประทานที่มาจากพระเจ้าแต่เพียงฝ่ายเดียว
พระเมตตาคุณเป็น “เหตุ” แห่งการบังเกิดใหม่ (ข้อ 3)
การบังเกิดใหม่ (Regeneration) ไม่ใช่ผลจากการที่เราตัดสินใจเปิดใจ แต่เป็น พระราชกิจของพระเจ้าโดยสิ้นเชิง ที่ทรงกระทำในเราโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เป็นพระองค์ที่ทรงเปลี่ยนใจหินของเราให้เป็นใจเนื้อ (อสค. 36:26) และให้ชีวิตใหม่แก่เราที่เคยตายแล้วในบาป การบังเกิดใหม่นี้จึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อน เราจะมีความเชื่อ และเป็นสิ่งที่ ทำให้ เราสามารถเชื่อได้
เมื่อพระเจ้าทรงให้เราบังเกิดใหม่แล้ว ผลของพระวิญญาณ หรือการเปลี่ยนแปลงชีวิตจึงเป็น หลักฐานที่ปฏิเสธไม่ได้ ของการทรงสร้างใหม่นี้ ไม่ใช่สิ่งที่เรา “ยอมให้เกิด” แต่เป็นผลที่จำเป็นจากการที่พระคริสต์ทรงเข้ามามีชีวิตในเราจริงๆ การเปลี่ยนแปลงจากคนที่โผงผางมาเป็นสุขุม จึงไม่ใช่ความพยายามของเรา แต่เป็นพระลักษณะของพระคริสต์ที่สำแดงออกมาผ่านเรา
พระเมตตาคุณเป็น “หลักประกัน” แห่งมรดก (ข้อ 4)
มรดกที่เราได้รับคือ “ความรอด” ซึ่งเป็นมรดกที่มั่นคงและแน่นอน (“ไม่เสื่อมสลาย ไม่มีมลทิน ไม่ร่วงโรย”) ความมั่นคงนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถของเราที่จะรักษามันไว้ แต่เป็นเพราะมรดกนี้ถูก “เก็บรักษาไว้ในสวรรค์” โดยฤทธิ์เดชของพระเจ้า เพื่อเรา
มรดกนี้ถูกซื้อไว้ด้วยพระโลหิตของพระคริสต์อย่างสมบูรณ์แล้ว ไม่สามารถมีสิ่งใดมาทำให้มลทินหรือเสื่อมค่าลงได้ ความหวังใจของเราจึงไม่ได้อยู่ที่ตัวเรา แต่อยู่ที่ความสัตย์ซื่อและฤทธานุภาพของพระเจ้าผู้ทรงรักษาสัญญา
พระเมตตาคุณเป็น “ผู้พิทักษ์” รักษาความรอด (ข้อ 5)
ตามที่ข้อ 5 ยืนยันไว้อย่างชัดเจน ความเชื่อของเราที่ยืนหยัดอยู่ได้จนถึงวันสุดท้าย ไม่ใช่เพราะเราเข้มแข็ง แต่เพราะเรา “ได้รับการคุ้มครองโดยฤทธิ์เดชของพระเจ้า” พระเจ้าไม่เพียงแต่ประทานความเชื่อให้เรา แต่พระองค์ยังทรงเป็นผู้พิทักษ์และรักษาความเชื่อนั้นไว้ในเราตลอดเส้นทางด้วย
นี่คือหลักการ “การที่วิสุทธิชนจะยืนหยัดจนถึงที่สุด” (Perseverance of the Saints) ซึ่งความจริงแล้วก็คือ “การที่พระเจ้าจะทรงพิทักษ์รักษาวิสุทธิชนของพระองค์จนถึงที่สุด” (Preservation of the Saints by God) นั่นเอง ความเชื่อของเราที่ดำรงอยู่คือข้อพิสูจน์ถึงฤทธิ์เดชในการพิทักษ์รักษาของพระองค์
สรุป: ดังนั้น พระธรรมตอนนี้จึงเป็นข่าวดีที่น่าชื่นชมยินดีอย่างยิ่ง เพราะมันยืนยันว่าความรอดของเรา ตั้งแต่การบังเกิดใหม่ มรดกนิรันดร์ จนถึงการยืนหยัดในวันสุดท้าย ล้วนวางอยู่บนพระเมตตาอันมั่นคงของพระเจ้า ไม่ใช่ความพยายามที่ผันผวนของเราเลย เราจึงมีความมั่นใจในความรอดได้อย่างเต็มเปี่ยม และถวายสรรเสริญทั้งหมดแด่พระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว